ทำไมแก่ตัวลงมักเป็นโรคความดัน

ความดัน

ความดันมาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น โรคความดันกลายเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบมากในผู้สูงอายุ นี่เป็นเพราะมีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้การควบคุมความดันโลหิตในร่างกายยากขึ้นเมื่อแก่ตัวลง นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในร่างกายตามธรรมชาติที่ทำให้เกิดภาวะนี้มากขึ้นอีกด้วยครับ

สาเหตุที่ทำให้ ความดันโลหิตสูง พบมากในผู้สูงอายุ

การเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือด

  • เมื่อเราแก่ตัวลง หลอดเลือด (โดยเฉพาะหลอดเลือดแดง) จะมีการเสื่อมสภาพและสูญเสียความยืดหยุ่นไป ซึ่งทำให้หลอดเลือดไม่สามารถขยายตัวได้ดีเหมือนในวัยหนุ่มสาว
  • หลอดเลือดที่แข็งตัว (arteriosclerosis) หรือการมีคราบไขมันสะสมที่ผนังหลอดเลือด (atherosclerosis) จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ยากขึ้น และทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อดันเลือดไปทั่วร่างกาย ผลลัพธ์คือ ความดันโลหิตสูง นั่นเอง

การเปลี่ยนแปลงในระบบการทำงานของหัวใจ

  • เมื่ออายุมากขึ้น หัวใจ อาจจะสูญเสียความสามารถในการบีบตัวและการผ่อนตัว (dilation) ที่เหมือนตอนที่ยังหนุ่มสาว ส่งผลให้ปริมาณเลือดที่หัวใจสูบฉีดไปยังร่างกายลดลง และทำให้เกิดการเพิ่มความดันในหลอดเลือด
  • โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีภาวะหัวใจวายหรือภาวะหัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น

การเปลี่ยนแปลงในฮอร์โมน

  • เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ฮอร์โมน ที่ควบคุมความดันโลหิต เช่น เรนิน (renin) และ แองจิโอเทนซิน (angiotensin) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมความดันเลือดอาจจะมีความผิดปกติ
  • นอกจากนี้ฮอร์โมน อัลโดสเตอโรน ที่มีบทบาทในการควบคุมระดับน้ำและเกลือในร่างกายอาจทำให้ร่างกายเก็บน้ำและโซเดียมมากขึ้น ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น

พฤติกรรมและการดำเนินชีวิต

  • เมื่อแก่ตัวลง คนมักจะมี พฤติกรรมการใช้ชีวิต ที่ทำให้เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงมากขึ้น เช่น การขาดการออกกำลังกาย, การทานอาหารที่มีเกลือหรือไขมันสูง, การสูบบุหรี่, หรือการดื่มแอลกอฮอล์
  • น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น หรือการมีโรคอ้วนยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากมีการสะสมไขมันในร่างกายที่ส่งผลต่อการทำงานของระบบหลอดเลือด นั่งเล่นหวยไวอย่างเดียวไม่ออกกำลังกายก็ส่งผลกระทบโดยตรง

ความเครียดและปัญหาสุขภาพอื่น

  • เมื่ออายุมากขึ้น ความเครียด ก็ยังคงมีผลต่อสุขภาพ และผู้สูงอายุอาจจะต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ เช่น ความวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บหรือปัญหาการเงิน ซึ่งอาจทำให้ระดับความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น
  • โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน, ไขมันในเลือดสูง, หรือโรคไต ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้สูงอายุมีแนวโน้มเป็นโรคความดันโลหิตสูง

การเสื่อมสภาพของอวัยวะที่ควบคุมการไหลเวียนของเลือด

  • ไต มีบทบาทในการควบคุมความดันโลหิตผ่านกระบวนการกรองน้ำและเกลือออกจากร่างกาย เมื่อไตเสื่อมตามอายุ ระบบการควบคุมนี้อาจทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้เกิดความดันโลหิตสูงได้
ความดัน

ทำไมโรคความดันโลหิตสูงถึงอันตรายในผู้สูงอายุ?

เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

  • ความดันโลหิตสูงสามารถทำให้เกิด โรคหัวใจขาดเลือด, โรคหลอดเลือดสมอง (stroke), หัวใจล้มเหลว, และ โรคไต ได้ เพราะมันทำให้หลอดเลือดและหัวใจทำงานหนักจนเสื่อมสภาพ

ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง

  • หากปล่อยให้ความดันโลหิตสูงโดยไม่รักษา อาจนำไปสู่การเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง (stroke), โรคไตเรื้อรัง, โรคหลอดเลือดจอประสาทตา, หรือแม้กระทั่งการ หัวใจล้มเหลว (heart failure) ซึ่งอาจทำให้คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุลดลง

วิธีการป้องกันและรักษาความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุ

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

  • การออกกำลังกายช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือดและลดความดันโลหิต เช่น เดินเร็ว, ปั่นจักรยาน หรือการฝึกโยคะ

การควบคุมอาหาร

  • ลดการทาน เกลือ และ อาหารที่มีไขมันสูง เพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้นของความดันโลหิต
  • เพิ่มการทาน ผัก, ผลไม้, และ อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย หรือผักใบเขียว ซึ่งช่วยปรับสมดุลของความดันโลหิต

การควบคุมน้ำหนัก

  • ลดน้ำหนักจะช่วยให้ความดันโลหิตลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุที่มีน้ำหนักเกิน

การพักผ่อนและการลดความเครียด

  • การนอนหลับให้เพียงพอและการฝึกหายใจลึก ๆ หรือการทำสมาธิสามารถช่วยลดความเครียดและควบคุมความดันโลหิตได้

การติดตามและการตรวจสุขภาพ

  • ควรตรวจวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติครอบครัวหรือมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ

การใช้ยา

  • หากมีความดันโลหิตสูง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อใช้ยาในการควบคุมความดันโลหิต และทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

สรุป

การที่ โรคความดันโลหิตสูง พบมากในผู้สูงอายุเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในร่างกายหลาย ๆ อย่างตามอายุ เช่น การเสื่อมสภาพของหลอดเลือด, การเปลี่ยนแปลงในระบบการทำงานของหัวใจ, และการมีโรคประจำตัวต่าง ๆ การรักษาและป้องกันความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุจึงควรทำควบคู่กับการควบคุมการใช้ชีวิตประจำวันที่ดี เช่น การออกกำลังกาย, การทานอาหารที่เหมาะสม, และการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอครับ